หนังสือ สังสรรค์สไตล์อินาโมริ ผู้เขียน: มาซาโตะ, ฮปโป. สำนักพิมพ์ สุขภาพใจ

ในฐานะที่ผมเป็นสื่อที่ต้องใช้ภาษาในการทำงาน ผมขอชื่นชมว่า“คุณอินาโมริ คาซึโอะ เป็นอัจฉริยะในการใช้ภาษา” เช่น“เมื่อไรที่เราคิดว่ากำลังย่ำแย่ เมื่อนั้นแหละที่งานกำลังจะเริ่ม”“ชีวิตของคนและงาน = ความคิด x ความตั้งใจ x ความสามารถ”“การตั้งราคาคือการบริหาร”คุณอินาโมริพูดถึงสิ่งที่อยากพูดออกมาได้ตรงประเด็น ทะลุทะลวงเข้าไปถึงหัวใจคนฟัง และมีความหมายลึกซึ้งทำให้ทึ่งกันไปเลยทีเดียว แต่ละคำที่คุณอินาโมริถ่ายทอดออกมา จะยืนยงตลอดไปตามที่คุณอินาโมริเคยพูดไว้ว่า “เราต้องใส่จิตวิญญาณลงไปในคำพูด”แต่ทว่า ในสิ่งที่คุณอินาโมริพูดมาทั้งหมด มีอยู่คำหนึ่งที่พวกเราสงสัยนั่นคือคำว่า“คอมปะ”ทุกครั้งที่มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณอินาโมริจะพูดเรื่องคอมปะทุกครั้งไป “ช่วงแรกๆ บริษัท Kyocera จัดคอมปะในบริษัทบ่อยมากทำให้พนักงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” “และตอนที่ไปฟื้นฟูกิจการของJapan Airlines ก็จัดคอมปะบ่อยเช่นเดียวกัน โดยลงขันช่วยกันคนละ1,000 เยน...” ถ้าจะอธิบายง่ายๆ ว่าคอมปะคืออะไร ก็คงอธิบายได้ว่า คือการกินเลี้ยงกันนั่นเอง ผู้บริหารที่อายุเกิน 80 คนนี้อธิบายว่าคอมปะ คืออะไรให้ผมฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ ตอนแรกผมก็เพียงแค่คิดว่าเป็นที่ให้พนักงานมีโอกาสคุยกัน สนิทสนมกัน แต่คำๆ นี้ก็โผล่ในการพูดคุยหลายครั้ง จนนึกเอะใจว่า มันอาจจะไม่ใช่แค่การกินเลี้ยงกันธรรมดาๆต้องมีอะไรในนั้นแน่นอน และนี่คือจุดเริ่มต้นของหนังสือเล่มนี้นั่นเองครับแล้วสิ่งที่ผมคิดไว้ก็เป็นจริง อืม ไม่สิ มันเป็นสิ่งที่ลึกล้ำกว่าที่คิดเอาไว้มาก

“ถ้าใครได้ลองจัดคอมปะในแบบของคุณอินาโมริ รับรองว่าแม้จะเป็นพนักงานที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็จะสนิทสนมกลมเกลียวกันราวกับลูกไฟที่ลุกโชน” บริษัทที่จัดส่วนใหญ่จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คอมปะที่ว่านี้จะแตกต่างจากการกินเลี้ยงอย่างสิ้นเชิงเพราะเป็นแหล่งกำเนิดของพลังอันยิ่งใหญ่ ที่ผ่านมาจากการที่คนนิยมเรื่องการบริหารแบบอะมีบา หรือการบริหารแบบปรัชญา (Philosophy)ทำให้คนไม่เห็นความสำคัญของคอมปะ แต่ความจริงแล้ว ไม่สามารถแยกคอมปะออกจากการบริหารแบบอินาโมริได้เลยมีคนจำนวนมากที่คบกันเผินๆ ดูภายนอกอาจจะเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่องค์กรจะฟันฝ่าอุปสรรคไปไม่ได้ หากคนในองค์กรรู้จักกันไม่ลึกซึ้ง คุณอินาโมริย้ำหนักแน่นจนเกือบเหมือนดุว่า วิธีที่จะสนิทกันได้ มีวิธีเดียวคือ ต้องนั่งล้อมวงดื่ม เปิดใจคุยกัน และนี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณอินาโมริทุ่มเทกับเรื่องนี้มาก